สวัสดีจ้าาาาาาาาาา มิตรรักแฟนครับ เอ๊ย แฟนคลับทั้งหลาย หลังจากห่างหายไปห้าหกปี (ก็เว่อร์ไป!) ตอนนี้พอจะมีเวลา ไม่สิ …. เวลาเหลือเยอะแยะ ก็เลยขอแวะมานั่งเขียนอะไรเล่นแถวนี้กันหน่อยดีกว่า
ต้นไม้ที่เอามาฝากวันนี้เป็นไม้ใบในกลุ่มวาสนาฮะ แต่ไม่ใช่วาสนาเกร่อๆที่ปลูกกันตามริมรั้วตึกแถวริมถนนนะ! เพื่อให้เข้ากับกระแสไม้ใบที่กำลังมาแรง แร๊งงง แรงงงงงส์! ก็เป็น Dracaena ‘JT Stardust’ หรือที่พ่อค้าแม่ขายคนไทยเค้าตั้งชื่อให้ใหม่ว่า ‘วาสนาดาราราย’ ต้นนี้เท่านั้น!
วาสนาต้นนี้เป็นผลงานของคุณ Greg Hambali บรีดเดอร์ต้นไม้ชื่อดังชาวอินโดนิเซียที่ทำงานกับไม้ประดับอย่างต่อเนื่องยาวนานมาหลายสิบปี (ใบ้ให้นิดๆว่าผลงานของคุณ Greg นั้นมีอยู่ทั่วไปในตลาดต้นไม้ทั่วโลก ลองไปสืบดูเล่นนะครับว่ามีต้นอะไรบ้าง) แกนำเอาเพกา (D. cantleyi) ไปผสมกับ วาสนาป่าจากเกาะสุมาตราที่เพิ่งถูกค้นพบอย่าง D. jiewhoei จนได้ลูกผสมที่โอ้โหหห เห็นแล้วว้าวววว ต้นนี้
ความโดดเด่นอันดับแรกของวาสนาดารารายคือจุดประบนใบที่มีสีอ่อนกว่าสีของพื้นใบ ทำให้ดูเหมือนเป็นดอกดวงลอยเด่นขึ้นมา ซึ่งวาสนาที่มีลายประลักษณะนี้มีอยู่อีกหลายตัว แต่ส่วนใหญ่เป็นวาสนาป่าสายพันธุ์ดั้งเดิมแทบทั้งหมด เช่น เพกา (D. cantleyi) จากทางภาคใต้ของไทยและคาบสมุทรมลายู ไผ่ฟิลิปปินส์ (D. surculosa) ที่ปลูกตามบ้านทั่วๆไป นอกจากนี้ลูกผสมต้นนี้ยังมีใบกว้างและฟอร์มใหญ่ หากเลี้ยงได้สมบูรณ์เต็มที่จะยิ่งสวยจับตา ต้นไม่สูงปรี๊ดดดดดเป็นหอคอยเท่ากับต้นเขียวๆ เหมาะมากสำหรับนำไปจัดสวนหรือวางเป็นไม้กระถางตามมุมต่างของบ้านมากๆ
อันที่จริงแล้ววาสนาดารารายนี่มีอยู่ด้วยกันหลายเมล็ด แต่ละเมล็ดก็จะมีข้อแตกต่างยิบๆย่อยๆ เช่น ใบแคบกว่าบ้าง จุดน้อยกว่าบ้าง แล้วแต่ว่าได้เอกลักษณ์จากพ่อหรือแม่มามากกว่ากัน ลูกผสมเหล่านี้กระจายจากมือนักผสมไปยังเนิร์สเซอรี่ต้นไม้ทั่วโลก ก่อนจะถูกเผยแพร่สู่คนเลี้ยงทั่วๆไปอีกทีหนึ่ง อย่างในเมืองไทยเอง เท่าที่รู้นั้นมีอยู่ราว 3-4 เมล็ด แต่บางแบบก็ไม่ได้แพร่หลายนัก เพราะสวยไม่เท่ากับต้นที่ขายกันอยู่ทั่วๆไปนี้
หลังใบของวาสนาดารารายก็ยังเป็นลายสวย แต่จะเปลี่ยนสีไปตามช่วงอายุ ยิ่งแก่ใต้ใบก็จะยิ่งเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น (เรียงตามอายุใบใหม่จากบนลงล่าง)
วาสนาดารารายเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายมาก มาก มาก มากกกกที่สุดอย่างนึงในสามโลก ชอบแสงรำไร หรือแสงสว่าง แต่ห้ามโดนแดดจัดหรือไว้กลางแจ้ง เพราะใบจะไหม้เอาง่ายๆ ชอบน้ำ โดนน้ำเยอะแล้วไม่เน่า แต่ถ้าจะให้ดีก็ขอแบบพอดีๆก็พอ ขยายพันธุ์โดยการปักชำเหมือนกับวาสนาทั่วๆไป เพียงแต่อาจจะต้องคอยดูแลเป็นพิเศษในช่วงตัดหรือปักมากกว่าหน่อย อาจจะใช้น้ำยาเร่งราก ยากันเชื้อราทาบริเวณแผล บางคนก็ใส่ถุงอบเพื่อความสบายใจ อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ใครจะสะดวกแบบไหนก็ไม่ว่ากัน
ถ้าใครเป็นขาช็อปตามตลาดต้นไม้ อาจจะเริ่มเห็นวาสนาตัวนี้ออกมามากขึ้นได้ซักพักใหญ่ เพราะเริ่มมีจำนวนมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีเกร่อขนาดเดินสิบร้านเจอมันทุกร้าน มีขายอยู่ไม่กี่ร้านหรอก แต่ก็พอมีให้เห็นกว่าเดิมมากแล้ว เพราะวาสนาต้นนี้ราคาค่อนข้างสูง ต้นเล็กก็ราคาปาเข้าไปหลักพัน ในช่วงเวลาปกติคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักสะสมก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องขายราคานี้ เอาออกมาวางหน้าร้านคงไม่มีคนสนใจเท่าไหร่ แต่ในช่วงที่ต้นไม้เบๆต้นอื่นๆที่เคยมีเกลื่อนกลาดเหมือนผักปลาขึ้นราคากันหฤโหดเป็นสิบเป็นร้อยเท่าแบบนี้ ต้นวาสนาที่ไม่ได้เกร่อมากแล้วราคาแค่นี้ผมก็ถือว่าถูกเลยล่ะครับ
จะบอกให้ว่าช่วงที่มาแรกๆ ต้นนี้ตอนเต็มฟอร์มราคาเคยขึ้นไปถึงหลักหมื่นมาแล้ว เวลาผ่านมาเป็นสิบปียังลงมาได้แค่นี้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกันว่ามันทำง่ายหรือยาก อาจจะไม่ได้ยากระดับสิบ แต่ก็คงไม่ง่ายขนาดปักกิ่งคุณนายตื่นสายหรอก ไม่อย่างนั้นก็ถูกกว่านี้ไปนานละ
Reference รูปภาพบางรูป จาก A JOURNAL ON TAXONOMIC BOTANY, PLANT SOCIOLOGY AND ECOLOGY Vol. 19 (2): 75 – 116, December 22, 2020
aKitia.Com สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความทั้งหมดของบล็อกภายใต้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย.