บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร |
|
ในหมวดหมู่: บันเทิง |
ละเลงโดย แมค วันอังคาร 6 พฤษภาคม 2008
โชคดีมากๆครับที่ผ่านมา 2 วันนี้ได้ดูทีวี ในระหว่างที่เปิดไปๆมาๆช่องนั้นทีช่องนี้ทีก็ได้ไปเจอละครชุดของญี่ปุ่น ซึ่งแมคเองชอบดู Series ของญี่ปุ่นอยู่แล้ว (จริงๆชอบกว่า Series เกาหลีซะอีก) ซึ่งเดี๋ยวนี้นานๆทีจะมีโผล่มาสักเรื่องสองเรื่อง ส่วนใหญ่ปัจจุบันจะเป็น Series จีนหรือไม่ก็เกาหลีซะมากกว่า หนังจีนที่ชอบๆก็จะเป็นพวกหนังโบราณ จอมยุทธ ต่อสู้ ใครฆ่าท่านพ่อ ก็ดูหมด ส่วนหนังเกาหลีแต่ก่อนก็ชอบนะแต่เดี๋ยวนี้รู้สึกเฉยๆ เพราะดูไปแล้วเดาออกหมดว่าเรื่องราวมันจะเป็นยังไง อูยยย …
1リットルの涙 Ichi Rittoru no Namida, อิชิ ริตโตะรุ โนะ นะมิดะ บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร ตอนแรกที่ออกอากาศแมคก็โชคดีที่ได้นั่งดูเลย เพราะแปลกใจว่าทำไมช่อง ไทย PBS ถึงกล้าสวนกระแสขนาดนี้ เพราะตอนนี้ใครๆเค้าก็ฮิตเกาหลีกันทั้งนั้น ถ้าเค้ากล้าเอาออกมาฉายก็ต้องแปลว่ามันต้องขายได้ และมีจุดขายที่ดีแมคก็เลยนั่งดู นางเอกก็น่ารักซะด้วยเลยดูใหญ่เลย … ซะเมื่อไหร่! ดูเนื้อเรื่องต่างหาก อุวะอุวะฮิฮิ … เรื่องเริ่มมาแบบปกติ ก็ปกติจริงๆนะก็มันเพิ่งตอนแรกหนิ -_-‘
เป็นการเล่าถึงชีวิตครอบครัวญี่ปุ่นซึ่งครอบครัวนี้มีลูกหลายคนแฮะ ลูกสาว 3 คน ลูกชาย 1 คน ตัวหลักๆของเรื่อง (ครอบครัวนี้) ก็จะเป็น ลูกสาวคนโต คุณแม่ คุณพ่อ และน้องสาวตามลำดับ จากวัยเด็กสู่วัยมัธยมซึ่ง อะยะ อิเกะอุชิ นาง(สาว)เอก (ชื่อในเรื่อง) ได้สอบเข้าเรียนต่อได้ในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้คนในครอบครัวดีใจกัน แต่แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นมาถึงมันจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยแต่เรื่องเหล่านั้นก็อยู่ในสายตาของผู้เป็นแม่ที่พบความผิดปกติของลูกสาวตนเองได้ อย่างเช่นหยิบจับของแล้วหล่น สะดุด เดินหกล้ม สายตาจับจ้องเป้าหมายคลาดเคลื่อน เป็นต้น สาเหตุหลักจากการสังเกตุของแม่ของ อายะ คือ อายะ วิ่งไปโรงเรียนแล้วล้มลงคางกระแทกพิ้นแตก โดยการล้มของเธอนั้นไม่มีสัญชาติญาณการป้องกันตัวโดยการเอามือยันพื้นหรือปกป้องตัวเองเลยแม้แต่น้อย
เมื่อไปพบแพทย์และตรวจลงลึกไปในรายละเอียดโดยการ X-Ray ด้วยเครื่อง MRI (Magnetic Rasonance Imaging) หรือเครื่องการสร้างภาพด้วยการสั่นสะเทือนสนามแม่เหล็ก ที่สมองแล้วก็พบว่า อะยะ อิเกะอุชิ ได้ป่วยเป็นโรค Spinocerebellar Ataxia โดยมีชื่อภาษาไทยที่ฟังแล้วต้องแปลเป็นไทยอีกทีหนึ่งว่า ภาวะกล้ามเนื้อเสียสหการเหตุสมองน้อยพิการ ซึ่งแค่ไม่แค่ชื่อที่ฟังยากแล้ว ที่สำคัญโรคนี้ยังไม่สามารถรักษาได้เลย โดยจะมีอาการหยิบจับหลุดมือ, สะดุด, หกล้ม, ภาวะการไม่ประสานกันของมือทั้งสอง, สายตาจับจ้องผิดเป้าหมายหรืออยู่ในภาวะซุ่มซ่ามผิดปกติ และอาการเหล่านี้จะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทีละนิดจนทำให้ผู้ป่วยถึงขั้นไม่สามารถเดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ถึงขั้นมีภาวะการกลืน สำลัก พูดไม่ได้ ความสามารถในการเคลื่อนไหวทางกายภาพของผู้ป่วยจะเสื่อมทรามลงตามลำดับและสูญเสียไปในที่สุด จนสุดท้ายถึงขั้นเสียชีวิตจากการนอนหลับ
ซึ่งเรื่องนี้ ณ. วันนี้กำลังดำเนินมาถึงตอนนี้ คุณหมอบอกให้ อะยะ เขียนบันทึกชีวิตประจำวันของเธอ ถ้ามีสิ่งไหนที่ผิดปกติให้เขียนบันทึกลงไป ซึ่งตัวเธอเองนั้นตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมต้องเขียน และเขียนไปเพื่ออะไร จากสาเหตุการเขียนบันทึกนี้จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง “บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร” แมคเองคงไม่สปอย์เรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาดีน่าติดตาม ดูแล้วให้แง่คิดกับชีวิตทั้งความรักของตัวเอง, ครอบครัว, หรือคนรอบข้างได้อย่างดีมากๆ ถึงแม้ว่าตอบจบ อะยะ อิเกะอุชิ จะเสียชีวิตแบบไม่มีการฟลุครอดด้วยโรคนี้ก็ตาม *เอาเข้าให้แล้ว*
เรื่อง บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร นี้เป็นเรื่องที่สร้างมาจากโครงเรื่องจริง ของหญิงสาวอายุ 15 ปีที่ชื่อ อะยะ คิโต ที่ป่วยเป็นโรค Spinocerebellar Ataxia จากเรื่องจริงของเธอที่ได้บันทึกไว้ในบันทึกประจำวัน ที่เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป็นเธอที่ต้องป่วยด้วยโรคนี้ทั้งๆที่เธอก็มีอายุเพียงแค่ 15 ปี
“ฉันจะตายโดยปราศจากความรักหรือ หนูอยากแต่งงาน”
ซึ่งเป็นประโยคจากบันทึกของ อะยะ คิโต ก่อนที่เธอจะ … จะอะไรหว่า ลืม … และเมื่อเรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นละครทีวี คุณแม่ของ อะยะ คิโต จึงต้องการให้เรื่องราวลูกของตนเองนั้นเป็นเด็กที่รู้จักความรัก และมีคนรัก ในละครเธอจึงได้มีเพื่อนและได้มีคนรัก ซึ่งในชีวิตจริงนั้นเธอไม่มีโอกาสได้รู้จักความหมายของคำๆนี้นอกจากรักของครอบครัวและพ่อแม่เท่านั้น
ดารานำแสดง
- Erika Sawajiri (沢尻 エリカ) รับบท 池内 亜也 อะยะ อิเกะอุชิ (เปลี่ยนนามสกุลจากเรื่องจริง)
- Hiroko Yakushimaru (薬師丸 ひろ子) รับบท 池内 潮香 ชิโอะกะ อิเกะอุชิ (มารดาของ อายะ)
- Ryo Nishikido (錦戸亮) รับบท 麻生 遥斗 ฮะรุโตะ อะโซ (รักสุดท้ายของ อายะ)
- Takanori Jinnai (陣内孝則) รับบท 池内 瑞生 มิซุโอะ อิเกะอุชิ (บิดาของ อายะ)
- Riko Narumi (成海璃子) รับบท 池内 亜湖 อะโกะ อิเกะอุชิ (น้องสาวของ อายะ)
- Naohito Fujiki (藤木直人) รับบท 水野 หมอมิซุโนะ (แพทย์ผู้รักษา)
ใครยังไม่เคยดูก็ดูซะนะครับ เพราะ Series เรื่องนี้มีน้อยตอน ฉายไม่กี่วันก็จบแล้ว ที่สำคัญเตรียมต่อมน้ำตาแตกได้เลย นี่ขนาดฉายไป 2 ตอนยังไม่ถึงจุดกระชากอารมณ์เลยนะ เล่นเอาเศร้าสลดใจขนาดนี้ ถ้าใกล้จะจบคงน้ำตากระฉูดกันแหงๆ
ติดตามชมได้ทางช่อง ไทย PBS ครับ วันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.30 น.
สุดท้ายนี้ อย่าลืมดูละครแล้วย้อนมองตัวเองนะครับ ว่าเรายังมีโอกาสอีกเยอะแยะที่จะทำอะไร อย่าน้อยใจในโชคชะตาตัวเองเด็ดขาด ตราบใดที่ยังมีลมหายใจก็ต้องสู้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
Comments

คำค้น1 litre of tears, 1リットルの涙, ความรัก, ญี่ปุ่น, บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร, บันเทิง, ละคร |
บทความที่เกี่ยวข้อง

วันพฤหัสบดี 8 พฤษภาคม 2008 เวลา 01:24
ดูเหมือนกันค่ะ แค่วันที่ 2 ก็น้ำตาไหลแล้ว น่าสงสารคนเป็นแม่มากๆ แสดงก็ดีด้วยแหละ
พระะเอกไ่ม่หล่อค่ะ แต่ดูแล้วชักหลง
วันพฤหัสบดี 8 พฤษภาคม 2008 เวลา 10:05
ได้ดูแล้วนะครับ หนังดีทีเดียว (ดีกว่าสวรรค์เบี่ยง , ดีกว่านางทาส เยอะเลย)เป็นหนังที่ให้กำลังใจดีมาก แต่นางเอกเคยถ่ายภาพหวือหวา มาเยอะนะครับ ชื่อ ERIKA เนี่ยไม่มีใครไม่รู้จัก
แต่กับบทบาทการแสดงก็ถือว่าเธอทำได้ดีทีเดียว เมื่อไหร่หนังไทยจะหลุดจากวังวนพ่อผัวตาย แม่ยายโง่ โอ้อวดร่ำรวย ซะทีนะ
วันอังคาร 13 พฤษภาคม 2008 เวลา 21:25
ชอบมากเหมือนกันสำหรับเรืองนี้
อยากอ่านที่เป็นหนังสือนะ แต่ยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทยใช่มั้ย
ในเรื่องน่ะ แอล (เดทโน้ต)เล่นด้วยใช่มั้ยล่ะ ได้ดูนิดหน่อย พอดีแย่งทีวีดูกับน้องเอา
วันพุธ 14 พฤษภาคม 2008 เวลา 04:15
น้องดาว ที่ว่าพระเอกไม่หล่อแต่ชักจะหลงเนี่ย แบบนี้เรียกว่าไม่หล่อแต่เร้าใจอ๊ะเปล่า งิงิ
…
ขอบคุณครับคุณ xjapan คงยากแหละครับเรื่องละครไทยที่หลุดพ้นจากเรื่องแบบนั้น แมคมีความรู้สึกว่าละครไทยเดี๋ยวนี้ไม่พัฒนาอะไรขึ้นมาเลยจาก 10 กว่าปีก่อน แถมยังลงทุนต่ำดูแล้วไม่เร้าใจเลย ไปประท้วงกันดีกว่า
…
ขอบคุณครับคุณ Bloody tree เรื่องหนังสือแมคก็ไม่รู้นะครับ ว่ามีภาคภาษาไทยไหม เรื่อง L แมคก็ไม่ค่อยจะคุ้นหน้าครับ เพราะดูใน Death Note เจ้า L แต่งหน้าซะฮิปมาก อิอิ แต่นางเอกคุ๊นคุ้นครับ คุ้นเหมือนคุณ xjapan เลย ฮิฮิ
วันศุกร์ 30 พฤษภาคม 2008 เวลา 04:00
เพื่อนๆพูดกันเหมือนกัน แต่ไม่ได้ดูสักกะทีเพราะลับบ้านไม่ทัน อยู่ชนบทก็ลำบากเงี๊ยะ
วันพุธ 3 ธันวาคม 2008 เวลา 18:19
ชอบมากมายเรื่องนี้อ่ะ จบไปนานแล้ว แต่ก้ย้ำดูซ้ำแล้วซ้ำอีก
ร้องไห้ไปซะมากมายเท่าไหร่แล้วไม่รู้ หุหุหุหุ
อยากได้เพลงจัง แต่เอาแค่ดนตรีอย่างเดียวอ่ะ เสียงร้องมะต้อง
ฟังแค่ดนตรีอย่างเดียวนี่ อินมาก ร้องไห้ได้อีกอ่ะ
อยากได้จริงๆๆนะค๊ะ …… :tongue: :biggrin: :happy:
วันพุธ 3 ธันวาคม 2008 เวลา 18:32
แหม ๆๆ เดี๋ยวนี้ก็ดูซีรี่ย์เกาหลีด้วยไม่ใช่หรอค้าบ :ermm: ได้ข่าว ๆ ๆ หึ ๆๆๆ :silly:
จัดคงจัดคิวให้ลูกอะไรหนะ 😉 รู้นะ ๆ ๆ :whistle:
รักแฟน 🙂
วันศุกร์ 23 มกราคม 2009 เวลา 21:40
เป็นหนังที่ดีแถมให้ง่คิดอีก อยากให้หนังไทยดูไว้เป็นตัวอย่างบ้างถึงมีสาระและดูได้ทั้งเด็กจนถึงแก่
วันศุกร์ 23 มกราคม 2009 เวลา 21:42
อยากให้หนังไทยดูไว้เป็นตัวอย่างนะ ประทับใจมากในหนังเรื่องนี้สอนหลายอย่างมาก
วันอาทิตย์ 3 พฤษภาคม 2009 เวลา 18:06
ชอบมาก ขอบคุณมากเพาะมาก
วันอังคาร 25 มกราคม 2011 เวลา 19:06
หนังไทยทำแบบนี้ได้ ประเทศไทยเจริญไปแล้วขอรับบบบ
วันอาทิตย์ 30 มกราคม 2011 เวลา 15:37
ประเทศไหนก็ทำหนังดีหมด หละคะ เพียงแต่ หนังเรื่องนี้ เป็นหนังชีวิต ที่เป็นเรื่องจริงจากเด็กผู้หญิง ม.ปลายญี่ปุ่น ที่ดูกี่ ที ๆ ก๊ะ ซึ้ง ทุกรอบ
วันอาทิตย์ 20 พฤษภาคม 2012 เวลา 21:25
ซึ้งมาก เก็บไว้เปนหนังในดวงใจเลยค้ะ :heart:
วันจันทร์ 23 กรกฎาคม 2012 เวลา 11:51
เรื่องนี้ดูมาหลายรอบแล้วค่ะ โดยเฉพาะตอนที่รู้สึกท้อแท้ เราเปนโรคหัวใจซึ่งตอนนี้มันก้อค่อนข้างรุนแรง แต่เรื่องนี้ทำให้เราอยากมีชีวิตอยู่เพื่อพ่อแ่ม่ ซึ้งจริงๆเรื่องนี้